ฟุตซอล

หากกล่าวถึงฟุตซอลในประเทศไทย ถือเป็นกีฬาที่เชิดหน้าชูตาของประเทศเลยก็ว่าได้ โดยผลงานล่าสุดจากการจัดอันดับของ ฟีฟา ฟุตซอล เวิลด์แรงกิง ไทยอยู่ในอันดับที่ 17 ของโลก เป็นอันดับ 3 ของเอเชียและเป็นที่ใน 1 ของอาเซียน

กีฬาฟุตซอลไทยปัจจุบันเป็นที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กีฬาฟุตบอลไทยเช่นกัน ด้วยลักษณะเกมการแข่งขันที่รวดเร็วสนุกตื่นเต้น การแข่งขันในร่ม ซึ่งเอื้อแก่การเข้าชม และผลงานที่น่าชื่นชม จึงเป็นที่ได้รับความนิยม แต่ในการแข่งขันระดับสโมสรฟุตซอล อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักของใครหลายๆคน ที่ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของผลงานอันยอดเยี่ยมสู่ระดับโลก

ซึ่งการแข่งขัน ไทยแลนด์ ฟุตซอล พรีเมียร์ลีก 2012-2013 ฤดูกาลล่าสุดปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมาซึ่งเป็นทางด้านแชมป์เก่าอย่าง ชลบุรี ธอส. อาร์แบค ที่ได้แชมป์ไปครองได้สำเร็จ และยังไม่มีวี่แววของกำหนดการที่ชัดเจนว่าจะเปิดฤดูกาลหน้าในตอนไหนและสิ่งที่เป็นปัญหาตามมาและเห็นได้ชัดเจน จากกระแสข่าวในวงการระดับสโมสรฟุตซอลไทยที่ผ่านมา คือเรื่องของการค้างค่าเหนื่อยนักเตะของต้นสังกัด เนื่องจากฟุตซอลไทยไร้ผู้สนับสนุนอย่างจริงจัง จากความไม่ชัดเจนของเรื่องนี้ ในจากการส่งเสริมกีฬาชนิดนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาดังกล่าวกับหลายๆทีม

ล่าสุดเป็น สมุทรปราการ ฟุตซอลคลับ ทีมแห่งศึก ไทยแลนด์ ฟุตซอลลีก ยังติดค้างค่าเหนื่อยนักเตะในทีม รวมเป็นเงินราวๆหลักแสน หลังจากศึก ไทยแลนด์ ฟุตซอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุดจบลง ก็มีปัญหาตามมาทันที ไม่พ้นเรื่องการค้างค่าเหนื่อยนักเตะของต้นสังกัด ซึ่งเป็นเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว และไม่มีวี่แววที่จะจ่ายให้ ซึ่งเห็นได้ว่านักเตะบางรายในทีมก็ทนไม่ไหว จึงต้องย้ายออกจากทีมในช่วงเลกที่สอง

โดยก่อนหน้านี้เป็นทีม ลำปาง ยูไนเต็ด ปทุมคงคา ทีมดังอันดับ 8 ในศึก ไทยแลนด์ ฟุตซอลลีก หลังมีข่าวนักเตะในต้นสังกัดออกมาท้วงเกี่ยวกับค่าเหนื่อย ที่ยังค้างอยู่ในฤดูกาลที่ผ่านมาถึง 5 เดือน โดยไม่มีกำหนดการว่าจะเบิกเงินได้เมื่อไหร่ ซึ่งนักเตะในทีมต่างไม่พอใจกันถ้วนหน้า ซึ่งภายหลังทางประธานสโมสรได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ และรับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้อย่างเร็วที่สุด ซึ่งจะทยอยจ่ายให้ทีละส่วนซึ่งยังมีอีกหลายทีมหลายสโมสรที่ประสบปัญหาเหล่านี้ หลังจากที่การแข่งขันฤดูกาลล่าสุดจบลง

ข่าวในวงการระดับสโมสรฟุตซอลไทย มีแต่กระแสข่าวในปัญหาเรื่องการค้างเงินเดือนนักเตะของต้นสังกัด และข่าวการออกมาแจงของประธานหลายๆสโมสร ที่ออกมาทำการทยอยชำระค่าเหนื่อยของนักเตะที่ค้างไว้ โดยสาเหตุของปัญหาเหล่านี้เกิดจากการที่ ฟุตซอลลีกภายในประเทศ มีการจัดการและกำหนดการแข่งขันที่ใม่ชัดเจน ว่าจะเปิดฤดูกาลใหม่เมื่อไหร่อย่างไร ส่งผลทำให้หลายสโมสรต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย เฉพาะเงินเดือนของนักเตะมาตลอด

ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงภัยร้ายต่อวงการฟุตซอลอย่างชัดเจน จากการที่กีฬาชนิดนี้ยังคงถูกละเลยและไร้ซึ่งผู้สนับสนุน เชื่อว่าคนที่ตั้งใจทำสโมสรที่ต้องประสบกับปัญหานี้ ก็จะต้องเจอทางตันในการจัดการ และเลิกทำทีมไปในที่สุด ซึ่งผู้บริหารสโมสรโดยส่วนใหญ่แล้วจะประกอบกิจการทำอาชีพอื่น และไม่มีผู้ได้กำไรจากงานนี้อยู่แล้ว

สุดท้ายไม่มีสโมสร ไม่มีลีกอาชีพ นักฟุตซอลก็อยู่ไม่ได้ ขาดรายได้ในการเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัว เพราะความไม่มั่นคงในอาชีพนี้ เมื่อนักฟุตซอลเหล่านี้เลิกเล่นฟุตซอลไปทำอาชีพอื่น แล้ววงการฟุตซอลทีมชาติไทยที่เป็นทีมระดับโลกจะเป็นอย่างไร

ที่มา : http://tl.smmonline.net/article/2088.html#sthash.7PdOTgl2.dpuf

MAN U IN BANGKOK

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นการแข่งฟุตบอลนัดพิเศษ เตะฉลองสิงห์ครบรอบ 80 ปี

ผลบอล สิงห์ออลสตาร์ vs แมนยู
  ผลบอล ครึ่งแรก สิงห์ออลสตาร์ vs แมนยู ยังไม่สามารถทำประตูกันได้เสมอกันอยู่ที่ สิงห์ออลสตาร์ 0-0 แมนยู
    ครึ่งหลัง สิงห์ออลสตาร์ ออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ดาโน่ เซียก้า หลุดขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษเยื้องขวานิดๆ แล้วทำท่าหลอกจะยิงแต่เป็นเขี่ยบอลให้ ธีรเทพ วิโนทัย ได้ยิงด้วยเท้าซ้าย บอลเบียดทางมุมแคบที่เสาแรก โดยเบน อามอส พุ่งปัดไม่ทันเป็นประตูให้ สิงห์ออลสตาร์ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 50 และเป็นประตูเดียวในเกมส์ส่งผลให้ สิงห์ออลสตาร์ ชนะ แมนยู 1-0

และเขาคนนี้ไม่กล่าวถึงไม่ได้เด่นมากในเกมส์นี้ คนคนนี้คือ อัดนาน จานูซาจ เรามาดูประวัิติของเขากัน

             แอดนาน จานูซาจ นักเตะหนุ่มเบลเยี่ยมย้ายมาจากอันเดอร์เลชท์ ซึ่งที่สโมสรเก่านั้นเขาได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก หลังจากโชว์ทักษะเหลือร้ายมาตลอดการลงเล่นที่บรัสเซลส์

             จอมสร้างสรรค์เกมรายนี้ย้ายเข้ามาเล่นในสีเสื้อปีศาจแดงด้วยความคาดหวังที่สูง และเมื่อเราได้เคลียร์เรื่องวุ่นวายนิดหน่อยในการย้ายมาของเขาจนสามารถลงเล่นได้ เขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการแสดงฝีเท้าอย่างเต็มที่

              เขามีสไตล์การเล่นในแบบบุกขึ้นไปข้างหน้า มักจะมองหาเพื่อนร่วมทีมที่จะจ่ายบอลไปให้อยู่เสมอ เขากลายมาเป็นตัวหลักในทีมของ พอล แม็คกินเนสส์ทันที หลังจากเบิกสกอร์แรกของตัวเขาได้ในเกมที่พบกับ ครูว์ อเล็กซานดร้า
              อย่างไรก็ตาม อาการบาดเจ็บอย่างหนักก็ทำให้ฤดูกาลนั้นของเขาจบลง และเขาก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมใน เอฟเอ ยูธ คัพ แต่อย่างน้อยเขาก็ทันลงเล่นให้กับนัดสุดท้ายของทีมสำรอง เป็นเกมแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม และทุกคนก็เชื่อว่าเขาจะขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมได้แน่ในฤดูกาลต่อไป เมื่อเขากลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว
               หลังจากที่เข้าได้มามีบทบาทในทีมชุดยู-21 อย่างสม่ำเสมอ เขาก็ได้รับคำชื่นชมจากทั้ง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และ วาร์เรน จอยซ์ เป็นผลตอบแทนจากความมุมานะของเขา

"แอดนานเป็นนักเตะที่เล่นได้คงเส้นคงวามาก" เซอร์ อเล็กซ์ กล่าว 

            "เขาเพิ่งจะอายุ 18 เท่านั้นเอง และยังสามารถพัฒนาไปกว่านี้ได้อีกมาก เขามีการทรงตัวที่ดี มีความเร็ว และเป็นนักเตะที่เปี่ยมเทคนิค เขากับ นิค พาวล์ คือนักเตะอายุน้อยที่อยู่อันดับต้นๆ ของเรา"
             เขาทำผลงานได้ดีมากกับการเล่นในตำแหน่งกองกลาง เขาเล่นลูกนิ่งได้อย่างช่ำชอง และเมื่อเขาไปเล่นด้านข้าง เขาก็ยังเปิดลูกโค้งได้อย่างที่ผู้เล่นในตำแหน่งปีกที่ดีควรทำด้วย

บอสพาเลซยันชัดซาฮาควรได้สวมเสื้อผี อวยพรขอให้โชคดี

บอสพาเลซยันชัดซาฮาควรได้สวมเสื้อผี อวยพรขอให้โชคดี

           เอียน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ ยืนยันว่าเขาจะไม่ติดต่อทาบทามตัว วิลเฟร็ด ซาฮา กลับมาเล่นให้อีกแล้ว เพราะนับจากนี้ไป มันคือโอกาสพิสูจน์ตัวเองของดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ กับทีมระดับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว ทั้งยังฝากคำอวยพรให้ลูกศิษย์ของเขาประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" อีกด้วย
           "ในตอนนี้ ผมไม่คิดที่จะติดต่อไปหา เดวิด มอยส์ เพื่อขอยืมตัว ซาฮา กลับมาแล้วแหละ" ฮอลโลเวย์กล่าว "มันไม่แฟร์สำหรับตัวนักเตะเลย เขาควรได้รับโอกาสเริ่มต้นกับยูไนเต็ด ผมคิดว่าผมรู้จักมอยส์ดีพอ และอีกอย่าง ผมมั่นใจมากว่า ถ้าไม่ใช่ยูไนเต็ดแล้วล่ะก็ พาเลซก็ยังคงเป็นทีมแรกที่ซาฮาต้องการจะลงเล่นให้อยู่ดี"
           "เรามาพูดกันตรงๆดีกว่า ผมคิดว่าเด็กคนนี้ตื่นเต้นกับการจะได้รับโอกาสที่ยูไนเต็ดนะ และผมก็เชื่อว่าผมจะได้เห็นเขาลงเล่นในทีมชุดใหญ่ด้วย ผมคิดเช่นนั้นจริงๆ ผมขออวยพรให้เขามีเส้นทางค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และตอบแทนเม็ดเงินของสโมสรอย่างคุ้มค่าที่สุด"
"เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ค่อยลงทุนพลาดหรอก เดวิด มอยส์ เองก็คงจะแฮปปี้มากๆในตอนนี้ ที่เขามีนักเตะพรสวรรค์สูงอยู่ในทีม" ผู้จัดการทีมพาเลซกล่าว

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนประกาศรายชื่อ 24 ขุนพลสิงห์ออลสตาร์ชุดดวลแข้ง แมนยู

            

            ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนประกาศรายชื่อ 24 ขุนพลสิงห์ออลสตาร์ชุดดวลแข้ง แมนยู โดยไม่มีแข้งชลบุรี กับ บุรีรัมย์ ตามคาด ขณะที่ ผีแดง มี เวย์น รูนีย์ อยู่ในโผ

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสิงห์ออลสตาร์ ประกาศรายชื่อนักเตะชุดเตรียมทำศึก ฟุตบอลนัดพิเศษฉลองครบรอบ 80 ปี บุญรอดบริวเวอรี่ โดยปะทะแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 13 ก.ค.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ออกมาแล้ว โดยมีผู้เล่นจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกทีมล่าสุดติดเข้ามามากที่สุด 8 คน

นอกจากนี้รายชื่อ 24 ขุนพลชุดแรกของ "สิงห์ออลสตาร์" ยังไม่มีผู้เล่นจาก 2 ทีมใหญ่อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี แม้แต่คนเดียว โดยคาดว่าเป็นผลมาจากมีสปอร์นเซอร์เป็นคู่แข่งอย่าง "ช้าง" ที่มีโปรแกรมดึงทีมบาร์เซโลน่า มาดวลแข้งทีมชาติไทยเดือน ส.ค.นี้ เช่นกัน อย่างไรก็ตามยังคงมีผู้เล่นจากทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่มี ช้าง เป็นผู้สนับสนุนติดเข้ามาในทีมชุดนี้ด้วย 2 ราย

สำหรับรายชื่อทีมสิงห์ออลสตาร์ชุดดวล แข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีดังนี้ คิม ยู จิน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, รี ควาง ชอน, ดัสกร ทองเหลา, ดักโน่ เซียก้า, ธีรศิลป์ แดงดา, มาริโอ ยูรอฟกี้, อาทิตย์ ดาวสว่าง, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด),

นริศ ทวีกุล, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, โจเซ่ เมน่า, ชาตรี ฉิมทะเล, ธีรเทพ วิโนทัย, ประวีณวัช บุญยงค์ (บางกอกกล๊าส เอฟซี),

อภิภู สุนทรพนาเวศ,เจษฎา พั่วนะคุณมี (โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี), ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น,ทนงศักดิ์ พันภิพัฒน์ (เชียงราย ยูไนเต็ด),ชัยวัฒน์ นาคเอี่ยม, ทศพร ศรีเรือง (อาร์มี่ ยูไนเต็ด), อภิวัฒน์ งั่วลำหิน (บีอีซี เทโรศาสน) และณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, สมปอง สอเหลบ (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ด้านทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ก็ประกาศรายชื่อชุดมาเยือนประเทศไทยเรียบร้อยแล้วเช่นกันโดย เวย์น รูนีย์ ศูนย์หน้าคนดังที่มีข่าวย้ายทีมอย่างหนาหู มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้เช่นเดียวกับสตาร์ดังอย่าง ไรอัน กิ๊กซ์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ขาดเพียง ขาดเพียง ชินจิ คากาวะ และ ชิชาริโต ที่เพิ่งเสร็จภารกิจจากทีมชาติชุดลุยศึก ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 ที่ประเทศบราซิล

โดยรายชื่อนักเตะเบื้องต้นประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา, อันเดรส ลินเดอร์การ์ด, เบน อามอส 3 ผู้รักษาประตู ส่วนนักเตะรายอื่น ราฟาเอล ดา ซิลวา, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, ปาทริซ เอฟรา, ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, อันแดร์สัน, เวย์น รูนีย์, คริส สมอลลิง, เนมันยา วิดิช, ไมเคิล คาร์ริค, นานี, แอชลีย์ ยัง, แดนนี เวลเบ็ค, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, ทอม เคลฟเวอร์ลีย์, นิค พาวเวลล์, เฟเดริโก มาเคดา, อเล็กซานเดอร์ บุตเนอร์ รวมทั้งกองหน้ารายใหม่ วิลฟรีด ซาฮา ที่เพิ่งย้ายจาก คริสตัล พาเลซ นักเตะคนสุดท้ายที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซื้อตัวก่อนประกาศอำลาตำแหน่ง

ซึ่งการเดินทางมาดวลแข้งของสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด ในแมตซ์ฉลองครบรอบ80 ปี บุญรอดบริวเวอรี่ ครั้งนี้จะเป็นการคุมทีมลงทำศึกอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ เดวิด มอยส์ โค้ชคนใหม่

โดยแมนฯยูฯ มีกำหนดเดินทางมาถึงเมืองไทยใน วันที่ 11 ก.ค.56 และมีคิวลงดวลแข้งกับทีม “สิงห์ ออลสตาร์” ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 13 ก.ค.เวลา 20.00น.

นอกจากนี้ทางสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันร่วมทำกิจกรรมกับทาง “สิงห์ คอร์เปอเรชั่น” และแฟนบอลชาวไทยมากมายในช่วงระหว่างที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ในประเทศไทย รวมถึงการเปิดโอเพ่นเทรนนิ่งให้กับแฟนๆได้เข้าชมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ อีกด้วย

สกู๊ปพิเศษ เดวิด มอยส์ กับปัญหา 5 ข้อที่รอการแก้ไข

เมื่อวานนี้คงเป็นวันที่แปลกๆสำหรับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทั้งโลก เพราะมันคือวันเริ่มต้นอาณาจักรใหม่ของทีม ภายใต้การนำทัพของ เดวิด มอยส์ คนบ้านเดียวกันกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้ยิ่งใหญ่คนก่อน แต่ก่อนที่จะมองไปไกลถึงผลงานในฤดูกาลหน้า เรามาดูกันดีกว่าว่า ในตอนนี้ 5 ปัญหาที่รอต้อนรับมอยส์อยู่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีอะไรบ้าง ...

1
เวย์น รูนี่ย์ l คุณไม่สามารถพูดถึงการเริ่มต้นของมอยส์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เลย ถ้าคุณไม่พูดถึงปัญหาคาราคาซังของ เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าคนสำคัญของทีม ที่ตกเป็นข่าวว่าขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาห่างกันไม่กี่ปี ปัญหาของมอยส์คือ จะเอายังไงกับอดีตศิษย์เก่าคนนี้ดี? ทั้งคู่จะพบกันในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้และพูดคุยกันอย่างเปิดอกถึงอนาคตของดาวยิงวัย 27 ปี และไม่แน่ มันอาจจะเป็นคำตอบที่หลายคนไม่อยากจะให้เกิดขึ้นนัก …

2
กองกลาง l ถ้าจะมีสักตำแหน่งที่แฟนบอลสงสัยในการตัดสินใจของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำแหน่งนั้นก็คงหนีไม่พ้น "กองกลาง" ถ้าไม่ได้ฟอร์มระดับมาสเตอร์พีซของ ไมเคิล คาร์ริค ในฤดูกาลก่อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจมาไม่ถึงแชมป์ก็เป็นได้ เพราะนอกเหนือจากเขาแล้ว ทั้ง ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ อันแดร์สัน ต่างก็ฟอร์มขึ้นๆลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ในขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์ และ พอล สโคลส์ ก็ไม่เหมาะจะลงเล่นต่อเนื่องด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวัน ส่วน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ก็ไม่แน่ว่าจะกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกไหม และยิ่งไปกว่านั้น แม้คาร์ริคจะเป็นกองกลางที่ฟอร์มดีที่สุดคนหนึ่งในลีกเมื่อฤดูกาลก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเป็นจุดแข็งของเขาเลย ก็คือการทำประตู มอยส์ย่อมต้องการกองกลางสักคนที่ช่วยแบ่งเบาภาระของกองหน้าได้แน่ๆ แต่จะเป็นใครล่ะ?

3
กองหลัง l ในวันที่รุ่งโรจน์ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช คือคู่กองหลังที่ดีที่สุดในโลกคู่หนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ ณ เวลานี้ พวกเขากำลังร่วงโรย ด้วยอายุขัยที่มากขึ้น สภาพร่างกายที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนเมื่อก่อน และความเร็วที่ลดหายไป ไม่เพียงแต่สองคนนี้เท่านั้น ปาตริซ​ เอฟร่า เองก็ตกเป็นเป้าหมายของโมนาโก ทีมเศรษฐีใหม่จากลีกเอิงด้วยเช่นกัน
ถ้าข่าวลือในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นความจริง มอยส์ก็กำลังเร่งแก้ไขในจุดนี้อยู่เหมือนกัน ด้วยการพยายามดึงตัว เลห์ตัน เบนส์ แบ็คศิษย์เก่าของเขาที่เอฟเวอร์ตัน และ เอเซเกียล การาย กองหลังฟอร์มดีจากเบนฟิก้า แต่ถ้ามันเป็นแค่ข่าวลือ เราก็อาจได้เห็นการปั้นเด็กในทีมขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่
4
แบ็ครูมสต๊าฟ l เมื่อคำนึงถึงการลาออกแบบ "เกือบยกชุด" ของทีมงาน เซอร์ อเล็กซ์​ เฟอร์กูสัน เวลาที่สโมสรมีในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานคนเก่า กับทีมงานชุดใหม่ มันช่างน้อยจนน่าเป็นห่วง สต๊าฟอย่าง ไมค์ ฟีแลน, เรเน่ มิวเลนสตีน และ เอริค สตีล ไม่ได้เป็นแค่สต๊าฟธรรมดาทั่วๆไป แต่เขายังเป็นที่รักและเคารพของทุกคนในสโมสรด้วย ต้องดูว่าทีมงานชุดใหม่ของมอยส์ ซึ่งประกอบไปด้วย สตีฟ ราวด์, จิมมี่ ลุมส์เด้น และ คริส วู้ดส์ จะทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน เพราะสุดท้ายแล้ว ผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง

5
สภาวะความเป็นมหาอำนาจของทีม l แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมมหาอำนาจในฟุตบอลอังกฤษมาตั้งแต่ปี 1992 ทั้งเรื่องของการพาณิชย์ และผลงานในสนาม พวกเขาดึงดูดนักเตะระดับโลกเข้ามานับไม่ถ้วนภายใต้การทำทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ มีแค่ไม่กี่ทีมในโลกที่จะสามารถดึงดูดนักเตะได้อย่างยูไนเต็ด ปัญหาข้อแรกในตอนนี้ก็คือ มอยส์จะสามารถโน้มน้าวนักเตะชื่อชั้นระดับโลกให้มาร่วมงานได้หรือไม่? ก่อนหน้านี้ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับยูไนเต็ดมาไม่รู้กี่เดือนแล้ว แต่พอหมดยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ นักวิเคราะห์ก็มองว่าความหวังในการนำโรนัลโด้กลับมาก็น่าจะหมดไปด้วย เพราะมอยส์ไม่ใช่กุนซือระดับ "บิ๊กเนม" เท่ากับ เซอร์ อเล็กซ์ สิ่งที่มอยส์ต้องพิสูจน์ก็คือ เขาก็สามารถดึงนักเตะระดับโลกมาได้ในซัมเมอร์นี้ ถ้าจะให้ดีก็ต้องเร็วที่สุดเลยล่ะ เมื่อดูจากโปรแกรมอันโหดร้ายในช่วงต้นฤดูกาลของทีม

บทวิเคราะห์หนังเรื่อง Shattered Glass

ชื่อไทย ล้วงลึกจอมลวงโลก 
ชื่ออังกฤษ Shattered Glass

เรื่องย่อ

เรื่องราวของการเปิดโปงนักข่าวที่นั่งเทียนเขียนข่าวอย่าง สตีเฟ่น กลาส (เฮเด็น คริสเต็นเซ่น) จากสำนักข่าว เดอะ นิว รีพับลิค เขายังเป็นนักเขียนอิสระให้กับ โรริ่ง สโตน และเป็นนักเขียนประจำนิตยสารทางการเมืองและนักเขียนอิสระด้านโฆษณา ในช่วงกลางยุค 90 บทความของเขาได้นำ สตีเฟ่น กลาส ไปสู่การเป็นหนึ่งในนักข่าวหนุ่มที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในวอชิงตัน แต่ห่วงโซ่ประหลาดของบทความหนึ่งของ สตีเฟ่น กลาส กลับทำให้หน้าที่การงานของเขาหยุดชะงักลง “Shattered Glass” เป็นกรณีศึกษาของคนที่มีทั้งพรสววรค์และรอยมลทินในเวลาเดียวกัน หนังยังให้เราลองมองลึกเข้าไปในอาชีพที่สูงส่งที่สุด ที่ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพอันมีค่าของเราโดยการเปิดเผยความจริงแต่ จะเป็นอย่างไรหากความจริงเหล่านั้นได้กลายเป็นคำถามให้ต้องคิดขึ้นมา

บทวิเคาระหนังเรื่องนี้

ภาพยนต์เรื่องนี้เป็นภาพยนต์ที่สะท้อนชีวิตของคนทำงานในวิชาชีพนี้ซึ่งสะท้องในทุกๆ ด้านของการทำงาน

ภาพยนต์เรื่อง Shattered Glass หรือ ล้วงลึกจอมลวงโลก เป็นภาพยนต์ที่ถ่ายทอดการทำงาน การทำอาชีพของนักข่าวทำให้คนดูรู้ในหลักวิชาชีพนี้ว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร ทำอย่างไรปฎิบัติอย่างไรจึงจะได้ข่าวมา เบื้องหน้าเบื้องหลังในการทำงานเป็นอย่างไร ข่าวแต่ละข่าวกว่าจะออกมาให้เราได้รู้ ต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้างจึงจะออกมาสู้สาธารณะชนได้

ความคิดของตัวละครนี้ ไม่เหมือนกับตัวละครอื่นๆ เพราะเขาคิดว่าถ้าเราทำข่าวตามกระแสที่ทุกๆ
คนเขาทำกันมันก็ไม่ต่างกันมันคงจะไม่มีทางที่จะทำให้เราดังหรือได้รับรางวัลอะไร ตัวละครตัวนี้
เขาจึงคิดต่างจากคนอื่นโดยการที่สร้างข่าวขึ้นมาเอง กุข่าวหรื้อเต้าข่าว นั้นเอง เพื่อที่จะเป็น
ผลประโยชน์ให้กับตัวเอง

เรื่องนี้เป็นประโยชน์มากๆ ต่อคนที่ทำงานในวงการของสื่อ เราควรกาดูกันนะครับ

แมนยูวันนี้

วันที่ 1 กรกฏาคม เดวิด มอยส์ จะเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ว่างลงของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ แม้ว่ากุนซือชาวสก็อตจะได้พิสูจน์ฝีมือให้เห็น รวมถึงผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชนในเวทีพรีเมียร์ ลีก มาแล้ว มันก็ยังคงมีคำถามที่ต้องรอคำตอบจากเขาอยู่

ใครที่จะต้องหลุดออกจากทีม?
ระหว่างที่ตลาดซื้อขายนักเตะยังคงไม่ปิดตัวลง มันก็ยังคงไม่ชัดเจนว่าใครกันที่จะต้องเก็บข้าวของออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปในช่วงซัมเมอร์นี้ การเจรจาต่อสัญญาของ หลุยส์ นานี่ ถูกพับไปเมื่อปีที่แล้ว ทีมปีศาจแดงไม่สามารถตกลงกับความต้องการของนักเตะทีมชาติโปรตุเกสได้ มอยส์จึงจำเป็นจะต้องตัดสินใจอนาคตของปีกรายนี้โดยเร็ว เขาจะต่อสัญญากับนานี่หรือว่าจะขายเขาออกไป? แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นจะต้องจัดการอะไรสักอย่างกับนานี่ ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นการเสี่ยงที่จะต้องเสียตัวเขาออกไปฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์หน้า

อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แอชลี่ย์ ยัง ก็เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา และอนาคตของทั้งคู่ก็อาจจะไม่แน่นอนเหมือนกับนานี่ นอกเหนือจากนั้น อันแดร์สัน เองก็เข้าข่ายนักเตะที่อาจต้องย้ายออกไปด้วยเช่นกัน จอมทัพวัย 25 ปีไม่เคยยึดตำแหน่งตัวจริงถาวรได้เลยนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในปี 2007 สถานการณ์มันยังคลุมเครือว่าเขาจะถูกขายออกไปหรือไม่ในซัมเมอร์นี้ มันยังไม่มีข่าวอะไรที่เชื่อถือได้เลย อย่าลืมว่ามอยส์ยังอาจจะเขี่ยรองกัปตันอย่าง ปาทริซ เอฟร่า พ้นทีมไปพร้อมกับนานี่ และอันแดร์สันในช่วงพรีซีซั่นนี้ด้วยก่อนที่จะเริ่มคว้าตัวนักเตะใหม่ๆ เข้ามาสู่ทีม มอยส์จำเป็นจะต้องขายคนที่เขาไม่น่าจะใช้งานได้ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปก่อน

เวย์น รูนี่ย์ ยังคงมีอนาคตในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด อยู่หรือเปล่า?

ก่อนจบฤดูกาลก่อน เวย์น รูนี่ย์ ได้ยื่นคำร้องขอย้ายทีมเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 3 ปี แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องการเก็บนักเตะที่มีค่าคนนี้เอาไว้ (อย่างน้อยนี่ก็เป็นสิ่งที่สโมสรควรจะทำ) แต่การร้องขอย้ายทีมในครั้งนี้ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่ารูนี่ย์ยืนกรานที่จะ ย้ายออกจากทีมแชมป์ลีกอังกฤษไปจริงๆ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมอยส์ เขาจะคิดว่ารูนี่ย์นั้นเป็นที่พึ่งพาได้ในทีมของเขาหรือเปล่า? หากว่าใช่ เขาก็จำเป็นจะต้องโน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อกับสโมสร โดยที่อาจจะต้องเบียดแย่งตำแหน่งเดียวกับ ชินจิ คากาวะ ในทางกลับกัน มอยส์อาจคิดว่าคงเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยนักเตะที่หมดใจกับทีมออกไปจากสโมสรก็เป็นได้

หากว่ามอยส์ต้องการขายเขาจริง เขาก็จำเป็นที่จะต้องยื้อตัวเอาไว้ถึงช่วงท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ หากว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รีบเร่งที่จะปล่อยตัวดาวยิงทีมชาติอังกฤษออกไปในตอนนี้ พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ราคาอย่างที่ต้องการก็ได้

แท็คติคจะเป็นอย่างไรบ้าง?

ที่เอฟเวอร์ตัน มอยส์ได้พัฒนาระบบการเล่นแบบสวนกลับเร็ว เขาใช้ตัวเป้ายืนอยู่ที่ด้านหน้า โดยที่เน้นในเรื่องของการเก็บบอลเอาไว้ การเล่นบอลยาวคือสิ่งที่เขาโปรดปราน แต่แท็คติคแบบนี้อาจไม่เหมาะกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับการแข่งขันในเวทียุโรป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มที่จะเล่นแบบเน้นการครองบอลมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีมปีศาจแดง

ในแชมเปี้ยนส์ ลีก มันเป็นเรื่องจริงที่เกมของทีมคุณจะดีขึ้นหากว่าเน้นการครองบอล แม้ว่าในฤดูกาล 2011-2012 จะมีการเล่นบอลยาวเฉลี่ย 66 ครั้ง แต่ในฤดูกาลล่าสุดนี้มันก็ลดลงเหลือ 59 ครั้ง (ต่ำสุดเป็นอันดับที่ 3 ในพรีเมียร์ ลีก) มันชัดเจนว่าเซอร์ อเล็กซ์ ไม่ต้องการให้ทีมเสียบอลไปแบบง่ายๆ

ในทางกลับกัน เอฟเวอร์ตันของมอยส์มีค่าเฉลี่ยการเล่นบอลยาวถึง 64 ครั้งต่อเกมในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012-2013 (มากสุดเป็นอันดับ 3 ในพรีเมียร์ ลีก) ยิ่งไปกว่านั้น ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินก็ยังมีอัตราส่วนการจ่ายบอลขึ้นหน้าสูงสุดด้วย (33%) ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดเลยว่ามอยส์นั้นเน้นให้ลูกทีมเล่นเกมรุกอย่างรวดเร็วที่ สุด ซึ่งมันมีความเสี่ยงที่จะเสียบอลได้ง่ายมาก

ตอนนี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มอยส์จะยังคงเล่นในสไตล์สวนกลับของเขาต่อไปหรือว่าจะสานต่อปรัชญาการทำทีม ของเฟอร์กี้? เกมรุกทางปีกยังคงเป็นการโจมตีหลักของทีมปีศาจแดงอยู่ แต่กับมิดฟิลด์ และกองหน้านั้นจะออกมารูปไหนบ้าง?

ท่ามกลางข่าวลือที่ว่าทีมจะซื้อตัว ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ เควิน สตรูทมัน มันจะทำให้ทีมเปลี่ยนไปเล่นแผน 4-3-3 หรือเปล่า? ไม่มีใครรู้หรอกนอกจากมอยส์เท่านั้น